Powered By Blogger

วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เที่ยวนครนายก ถิ่นต้นไม้งาม ดินแดนธรรมชาติ

เมื่อหนึ่งคนรักหนึ่งคนกัด! .... @นครนายก ฟินไปจิ ^^"

~เที่ยวๆ ถิ่นต้นไม้งาม ดินแดนธรรมชาติ
#‎เมืองในฝันที่ใกล้กรุง‬ ‪#‎ภูเขางาม‬ ‪#‎น้ำตกสวย‬ ‪#‎รวยธรรมชาติ‬
@นครนายกไง ใกล้ๆ กทม.นี่เอง

คำเตือน ! ~~ ภาพน้อยไปหน่อยนะคะ พอดีที่ถ่ายมามีแต่ภาพ เรา เลย ฮ่าๆๆ  เอาน่าภาพหาที่ไหนก็ได้ แต่  บทความการเล่าเรื่องต่างกันโน๊ะ คิดซะว่ามานั่งอ่านเอาบรรยากาศ แต่อย่าหมั่นไส้เค้าหล่ะ คู่รักชื่นมื่น หราาา ~~~~


Start.........Go!

           ~รถติดจร้าาา....ตั้งแต่กทม.  เสรีไทย >> ด่านธัญญบุรี >> ปทุมธานี >>  นครนายก ก็ยังติด
เมื่อถึงนครนายยก บรรยากาศเรื่มครึ้มๆที่นครนายก ซักพักฝนเริ่มลงเม็ดเบาๆ ที่กระจกหน้ารถ
 คุณแฟนพาขับรถเข้าไปดูโรงเรียนเก่า สมัยมัธยม ว้าวว น่าสนใจ  มันชวนนึกถึงบรรยากาศเก่าๆ นี่เราแก่แล้วหรือนี่ ซักพัก ก็ออกจากรร. มุ่งหน้าไปอีกเส้นทางนึง ทางเข้าเป็นถนน เส้นเล็กๆ  สองข้างทางเป็นทุ่งนาข้าวสีเหลือง ข้าวกำลังออกรวงแล้ว พร้อมเก็บเกี่ยวในอีกไม่ช้า....ถัดจากทุ่งนาไป เป็นภูเขาสีเขียว เรียงกันเป็นแนวเดียวกัน ดูเหมือนนาข้าวถูกโอบล้อมด้วยภูเขาสีเขียวซะงั้น ^^  ถ่ายรูปไม่ได้เลยครึ้มๆย้อนแสงภาพดำปี๋.. ไปเส้นหลัก ไม่ได้เจอบรรยากาศแบบนี้นะบอกเลย  อิอิ สนใจสอบถามมาได้ เดี๋ยวถามคนขับรถให้จร้า ^^

             ชวนให้นึกถึงที่บ้านเลย แต่บรรยากาศที่ศรีสะเกษช่างต่างกับที่นี่มากนัก  ไม่มีต้นไม้เขียวๆแบบนี้  แห้งแล้งซะนี่กะไร  อากาศเปลี่ยนแปลง ท้องฟ้าก็เปลี่ยนไป  ช่วงนี้ลมแรงมาก ฝนยังไม่ตก แต่ใกล้แล้วว  ขับไปสักพักก็เปิดกระจกรับลมซะหน่อย  โหยยยย  ลมแรงสุดๆ คุยกันไม่รู้เรื่องจึงต้องกลับมา ปิดกระจกนั่งฟังเสียงเพลงบนรถดีกว่า  ฮ่าๆๆ  เจอรีสอร์ทน่าสนใจ ขอเก็บภาพถ่ายแป๊ปป  เก็บเบอร์โทรเธอไว้เผื่ออยากแวะพักซักคืน

             มุ่งหน้าต่อไปสักพัก คุณแฟนก็พาแวะ สักการะพระพิฆเนศ เป็น  องค์ที่ใหญ่ที่สุด เลยมั้ง เหมือนเคยอ่านเจอ  แต่คุณแฟนบอกว่าองค์ที่ฉะเชิงเทราอาจจะใหญ่กว่า  แต่ก็แค่เดานะ  ซื้อธูปเทียนดอกไม้ ร่วม 40 บาทจุดธูป จุดเทียน สักการะ สวดมนต์ แล้ว เดินวน ที่องค์พระพิฆเนศ 3 รอบ คุณแฟนก็น่ารัก ถ่ายภาพให้ตลอดเลย ดีจังแฮะ...^^

                                                                            ภาพที่ 1
 
          หลังจากนั้น  ไม่นาน ฝนก็เริ่มลงเม็ดจนได้สิ   วิ่งขึ้นรถกันไม่ทันเลยทีเดียว สถานีต่อไป  มุ่งหน้าสู่ ....
.............................................................น้ำตกสาริกา.............................................
บอกเลยว่ายังไม่กินข้าวมาตลอดเช้านั้น....นึกว่าแฟนจะพาแวะร้านข้าวข้างในน้ำตก....แหม๋ พลาด

   เมื่อถึงน้ำตกสาริกา  เราก็โดนโบก จอดรถ เสียตังค์ไป 40 บาท  แพงจัง  เดินไกลด้วย  ไม่น่าเลย  ขับเข้ามาอีกนิดเดียว ก็ไม่ต้องเดินละ  แนะนำให้ขับเข้ามาจนเจอป้ายบอกทางว่าข้างในมีที่จอดเป็นป้ายใหญ่ๆ

แฟนก็เหนื่อยง่ายเกิ๊น  เดินเข้ามาซักพัก ก็ถึงจุดจำหน่ายตั๋ว
ตั๋วราคา 40 บาท ผู้ใหญ่  สำหรับเด็ก 20 ว้าววว  รวยเละ
   แล้วเราก็เริ่มถ่ายรูป บรรยากาศโดยรอบไปเรื่อย แล้วก็เดินขึ้นชมน้ำตก อากาศเย็นสบายดีค่ะ เพราะข้างนอกฝนตก แต่ข้างในนี่โล่งเลย ดีจังแฮะ~...

~บันไดนี่น่ากลัวมาก มีแต่ขั้น ไม่มีราวให้จับเลย  อันตรายสุดๆ  พาเด็กไปนี่ต้องให้ขี่คอ

ภาพที่ 2


   เมื่อขึ้นไปถึงฐานน้ำตก  ชั้นบน น้ำก็อยากจะสำรวจเส้นทางเดินป่า  เราก็เดินตามขั้นบันไดไปเรื่อย สักพักบันไดหมด อ้าว มีแต่เส้นทางคนเดิน ถ้าลื่นลงไปนี่คือจบนะ ชีวิต โหดอ่ะ แต่ชอบนะ แต่มันก็เสี่ยง.....

ข้อความจากเฟสบุ๊ค.....

เมื่อน้ำอยากปีนเขา พิชิตสาริกา
เกือบถึงแล้ว อีกนิดเดียว~~
ก่อนหน้านั้น~ 20min
น้ำ: เค้าขึ้นไปนะ
แฟน: ค่ะ เค้ารอนี่นะ (กลัวความสูงเครเข้าใจมะว่ากัน)
....น้ำก็ไต่ขึ้นเขาต่อไปเกือบถึงยอด บอกเลยว่าทาง อันตรายมาก ตกง่ายมาก ไม่มีรั้วกั้น ไม่มีราวจับ ใครเคยปีนจะรู้ เดี๋ยวอัพรูปเพิ่ม
~ 20min ผ่านมา
แฟนตะโกนเรียก น้ำเอ้ย ขึ้นมาทำไม  ละก็ขำ ลงมาได้แล้ววว
เมื่อน้ำอยากไปต่อ เท่านั้นแหละ เริ่มดุ จริงจัง
‪#‎แฟนตามมา‬ ‪#‎แฟนมาตาม‬ ‪#‎แฟนเจ็บขา‬ ‪#‎แฟนกลัวความสูง‬ คิดในใจ ลงก็ได้ว๊ะ
และได้ยินเสียงพึมพำว่า......ตกลงไปจะเกิดไรขึ้น ใครจะรับผิดชอบไหว....บลาๆๆๆ คราวหลังจะไม่พามาที่แบบนี้อีกแระ ฮึ.???
เท่านั้นแหละ น้ำรีบลงเลย......กลัวอดเที่ยวอีก
‪#‎เค้าถูกทุกอย่างเพราะเราก็ไม่พร้อมทั้งการแต่งตัวและเวลาและมันเสี่ยงมากๆจริงๆ‬ ‪#‎ยอม‬ เดินคอตกกลับขึ้นรถ
และน้ำก็ไม่ได้ไปต่อ  ฮ่าๆๆๆๆๆ
 
 
ภาพที่ 3

ภาพที่ 4
 
 
                                         มันชันนะ ชันมาก อันตรายมากด้วย ข้างขวาเป็นเหว แว้วว

                 ภาพน้อยจริงๆ เหนื่อยจนไม่ไหวจะถ่ายรูปเลยค่ะ ดีนะที่ไม่ร้อนมาก แต่เหงื่อซิบๆเลยทีเดียว มีเวลาน้อยด้วยแหละ เพราะออกสายมาก อิอิ

~หลังจาก แฟนงอน งอนแฟน ต่างคนต่างงอนกัน  เราก็ลงจากเขาโดยไม่พูดไม่จากันตลอดทาง จนขึ้นรถ แล้วเราก็เริ่มมุ่งหน้าสู่สถานีต่อไป ใจนึกว่าจะไม่ได้ไปไหนอีกซะละ ฮ่าๆๆๆ
แฟนถามว่าลงไปไหว้พระข้างล่างมั๊ย ที่ทางขึ้นเขา จะที่วัดอยุ่ข้างทาง น้ำก็บอกไม่เป็นไรค่ะ กลัวแฟนรีบไง
แฟนก็ดุว่า อะไรๆก็ไม่ไป เรามาพักผ่อนนะคะ ที่เมื่อกี้ล่ะอยากปีนเขานะ เราไม่ได้มาผจญภัยนะ
แง้...แฟนดุ คนแก่ก็เงี้ย....
เราก็เออออไป ยอม เพราะเค้าก็พูดถูก ก็เราชอบแบบนี้ แต่สภาพเราก็ไม้พร้อมเลยซักอย่าง
และมันก็อันตรายมากๆๆ จริงๆ
และแล้ว เวลาก็ล่วงเลยมาจน บ่าย 2 โมง คุณแฟนพาแวะร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ร้านนึงทางเข้าเป็นถนนเส้นทางแคบๆเส้นนึง ทำไม่ไม่ถ่ายรูปมานะ 5555+

           ชื่อร้านก๋วยเตี๋ยวลุงเผา ทางเข้าร้านก็แคบกว่าถนนด้านหน้าซะอีก วิ่งได้เลนเดียว แต่ข้างทางมีร้านขนมตรกร้านนึง แฟนว่า อร่อยมากเลย ไม่กินพลาดละ บางวันนี่มาแล้วไม่มี หมดงี้ เราก็ อื้ม ลองชิมดู ชื่อ ขนามครกโบราณ อร่อยดีนะ หอม หวาน ไม่เละ กรอบนอกนุ่มในเลยทีเดียว
ไม่กี่อึดใจเราก็เดินทางมาถึง ร้านลุงเผา ข้างในมีทั้ง อาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยวเรือ มีหมูสเต๊ะ ของโปรดน้ำด้วย
รีบสั่งก่อนเลย ยังไม่ได้โต๊ะนะ แแหม๋..... เด็ดที่สุดที่นั่งของร้านนี้.....
เป็นเหมือนเรือนแพ บนน้ำ สามารถเอาขาหย่อนลงแช่น้ำได้ ขณะรับประทานอาหาร  เย็นสบายทีเดียว แต่บางทีแดดส่องไปหน่อยเค้าบังไม่มิด ตอนแรก แฟนก็นั่งตรงข้ามกับน้ำ เราก็บอกว่าร้อนก็มาฝั่งนี้....แต่ไม่มา บอก  ไม่เป็นไร เอาบรรยากาศ......หรา บรรยากาศร้อนอ่ะดิ  ซักพักทนไม่ไหวก็มานั่งเบียดเค้า  โถ่วววววหมูน้อย.
เราก็แซวไป ไม่ต้องรักเค้ามากขนาดนั้นก็ด้ายยยยที่รัก
แฟนบอก  ไม่ได้รัก  เค้าร้อน
แง้  แฟนไม่โรแมนติกเบย~~~~
   แล้วมื้อนั้นเราก็อิ่มหน่ำสำราญ  ไปทั้งวัน  สั่งแค่ เตี๋ยวเรือ ส้มตำ และ หมูสเต๊ะเองนะฮ่าๆๆๆ
เล่นซะพุงกางเลยยย  ^^  อ๋อ  มีขนมครกอีกสองกล่อง

ภาพที่ 5
                                   น่าจะมี สปาปลาด้วยนะ ฟินแน่เลย น้ำเย็นเจี๊ยบ สบายอ่ะ จริงๆนะ ^^"

     แล้วเราก็มุ่งหน้าสู่สถานีต่อไป......
เขื่อนขุนด่านปราการชลนั่นเอง
     ตอนนี้เริ่มร้อน  ประมาณ 3 โมงเย็น พระอาทิตย์กำลังจะดิ่งลง  เป็นเวลาที่ แสบตาสุดๆ และร้อนมากๆ
เราก็เดินถ่ายรูปเล่น ซักพัก เดินไปถ่ายที่สันเขื่อน  โหหห มันสูงมากกก  วิวข้างล่างนี่สูงสุดๆ
~ถ้าดูจากทางที่เราเดินเขาสันเชื่อน  ข้างซ้ายมือเราจะเป็นน้ำ  ที่ถูกกักบริเวณไว้....อีกฟากฝั่ง ด้านขวามือ จะเป็น พื้นดิน แนวทางเดินน้ำที่ปล่อยลงจากเขื่อน ข้างๆล้อมด้วยภูเขาสีเขียว เส้นทางที่ปล่อยน้ำเป็นลำธารนั้น สวยเหลือเกิน ดูคดเคี้ยว มีแฉก ซ้านขวา  ไม่ใช้แค่ลำธาณเส้นตรงธรรมดาๆ  มองจากด้านบนนี่สวยมากเลย
   ลองจินตนาการว่า ซ้าย ขวา  ระยะทางความสูงเท่ากัน แล้วน้ำที่มีปริมาณเต็มเขื่อน และ สูงมากขนาดนั้น พื้นที่กว้างใหญ่ขนาดนั้น  โอ่ยยย ไม่อยากจะคิดเลย  ถ้าเกิด...... มันคงน่ากลัวมาก  แต่ไม่หรอก พระองค์ท่านรอบคอบที่สุดแล้ว...^^ปริมาณน้ำคงมหาศาลเลยแหละ
 
เจอแล้ววววว เขื่อนขุ่นด่าน ^_^ มองเห็นไกลๆ
ภาพที่ 6
จะเข้าไปจอดรัก เอ้ย รอดรถแล้วน้าาา
ภาพที่ 7
 เย้ ถึงซะที ถ่ายรุปกันเถอะ
ภาพที่ 8
 วิวขุ่นเขากะสายน้ำนี่มันเข้ากันจริงๆเลย
ภาพที่ 9
 สุดลูกหูลูกตาก็ยังเห็นภูเขา ไกลลิบลิ่ว
ภาพที่ 10
 น้ำนิ่ง  แต่ลึก.....
ภาพที่ 11
 จะกลับแล้วน้าาาา เส้นทางเดินรถ มีรถพาเที่ยวด้วยแหละ
ภาพที่ 12
  วิวด้านล่าง น้ำน่าลงไปเล่นมากมาย ฮ่าๆๆๆ ไม่น่ากลัวด้วย
ภาพที่ 13
บ๊ายบายยยย  ขุ่นด่านแลนด์ ร้อน ฮ่าๆๆลากลับแล้วคร้าา
ภาพที่ 14
 

             และแล้วคุณแฟนก็เหนื่อยและร้อนมาก เหงื่อนี่เต็มตัว  ตั้งแต่เดินขึ้นไปตามน้ำบนเขาละ  ก็ไปเนอะฮ่าๆๆ
ตัวกลัวปวดขา กลัวความสูงอยู่ด้วย เราก็กลัวนะ ตอนลง นี่ขาสั่นเลยแหละ  แต่ไม่บอกแฟนหรอกเดี๋ยวโดนบ่น
นี่แค่ล่าสุดวันที่ 10 11 57 เราปวดขา  ก็มาสมน้ำหน้าเราซะงั้น หึๆ  แต่ปวดจริงนี่ขนาด ออกกำลังกายขา เน้นๆเลยนะยังปวด แอะ!

              และแล้วก็ได้เวลากลับบ้าน  กทม.  ขอให้ทุกท่านเดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ ป้ายเขตได้กล่าวไว้ประมาณนี้   ก็สวัสดิภาพจริงๆ  รถไม่ติดเท่าขามา  เราออกจากนครนายก ประมาณ 4 โมงครึ่ง  ถึงกทม. ก็6โมงพอดี แวะซื้อขนมตาลข้างทางมา 3 กล่อง  50 บาท แฟนบอกอร่อย แต่เราว่าจืดไปนิดนะ  กะจะซื้อกล้วยมาซักสองสามหวี  ขับเลยมาซะงั้น แฟนบอก  ข้างหน้ามี  ขับมาจนจะออกจากนครนายกละ ไม่เห็นมีเลย ฮ่าๆๆๆ สุดท้ายก็อดกินกล้วยกันไป

# วันนี้มีความสุขมากนะ
ถึงแม้ระหว่างทาง  จะกวน....กันตลอดทางก็เถอะ  แต่เรารู้ว่าคุณแฟน เหนื่อย และอารมณ์แปรปรวนไปหน่อย
นี่ก็ถือว่ามีอารมณ์ดีในระดับนึง ที่ยังพูดจากวนตีนได้แบบนี้  เพราะคงหงุดหงิดที่เราไปเที่ยวเมื่อคืนก่อนมานี่แหละ  และถามทำให้หงุดหงิดอีกครั้งตอนขึ้นเขาที่น้ำตกสาริกาด้วย  ตอนแรกเกือบจะดีละ  นี่ก็ชอบหาเรื่องจริงๆเลย ฮ่าๆๆๆๆ  ^^^
จบทริป  วันอาทิตย์นอนพักผ่อน สบายยย.... บ๊ายบายย ^^"

                                   "ปลายทางไม่สำคัญเท่า  เรื่องราวระหว่างทาง"

|| หนูน้อยกระจิ๊ดริด
|| หนีมลพิษเที่ยวธรรมชาติ@นครนายก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น